การออกกำลังกายเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการช่วยให้สัตว์ป่วยโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) สามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ และโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ไม่ได้เป็นเพียงโรคของแมวสูงอายุเท่านั้น – เคยมีรายงานว่า แมวที่อายุเพียง 2 ปี มีอาการปวดข้อ หากน้องแมวของคุณเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงและคุณสงสัยว่าอาจเป็นโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) รีบปรึกษาสัตวแพทย์
การออกกำลังกายช่วยเพิ่มและรักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อ รวมถึงลดความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ได้ ในคนที่ป่วยเป็นโรคข้ออักเสบ การออกกำลังกายช่วยปรับอารมณ์ ดังนั้นในสัตว์เลี้ยงก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน การออกกำลังกายยังช่วยให้สัตว์เลี้ยงที่มีน้ำหนักเกินลดรอบเอวได้ โดยควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารที่เหมาะสม การลดน้ำหนักจะช่วยลดแรงกดบนข้อต่อที่มีปัญหาและบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดได้ นอกจากการรักษาที่สัตวแพทย์แนะนำ ยังมีเหตุผลมากมายที่คุณควรสนับสนุนให้น้องแมวของคุณกลับมาเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
มีหลายวิธีที่การออกกำลังกายช่วยให้ข้อต่อที่เป็นโรคข้ออักเสบได้รับประโยชน์
โดยหลักการแล้ว การเคลื่อนไหวช่วยให้ข้อต่อสามารถทำงานได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม ข้อต่อที่มีภาวะอักเสบแต่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวน้อยเกินไป อาจทำให้อาการแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป หลักการสำคัญคือการรักษาสภาพเนื้อเยื่อที่รับน้ำหนักในข้อต่อให้แข็งแรง เนื่องจากข้อต่อทุกส่วนมีส่วนที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก เรียกว่า กระดูกอ่อน (cartilage) และได้รับการหล่อลื่นด้วยของเหลวที่มีความหนืดสูง เรียกว่า น้ำเลี้ยงข้อ (synovial fluid) ซึ่งนอกจากช่วยหล่อลื่นข้อต่อแล้ว ยังนำสารอาหารสำคัญมาสู่เซลล์กระดูกอ่อนอีกด้วย โรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) เกิดจากการค่อยๆ เสื่อมของชั้นกระดูกอ่อน ซึ่งข้อต่อยังต้องการกล้ามเนื้อ เอ็น และเอ็นยึดที่แข็งแรง เพื่อช่วยในการเคลื่อนไหวและพยุงข้อต่อ โดยการออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อเหล่านี้แข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถช่วยพยุงข้อต่อที่มีปัญหาได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องยากสำหรับสัตว์เลี้ยง
ในทางทฤษฎีอาจดูง่าย แต่เจ้าของน้องแมวหลายท่านอาจสงสัยว่าจะทำอย่างไรที่จะกระตุ้นให้น้องแมวที่ไม่อยากเคลื่อนไหวกลับมาออกกำลังกายได้
แม้ว่าการกระตุ้นแมวให้ออกกำลังกายอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงในบ้านเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่ช่วยให้น้องแมวเคลื่อนไหวได้ สิ่งแรกที่ควรพิจารณาเมื่อคุณต้องการเพิ่มกิจกรรมให้กับน้องแมวที่เป็นโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) - คำตอบอยู่ที่หัวข้อด้านล่าง-
ต้องมั่นใจว่าน้องแมวของคุณได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำและมีการควบคุมความเจ็บปวด
สัตวแพทย์มีตัวเลือกในการจัดการความเจ็บปวดมากมายที่จะช่วยให้น้องแมวลดความเจ็บปวด ในปัจจุบันมียาแก้ปวดชนิดใหม่ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในแมวอีกด้วย ดังนั้น ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ เมื่อน้องแมวหายจากความเจ็บปวดจะทำให้น้องแมวกลับมาออกกำลังกายได้อยากมีความสุขมากขึ้น

แมวมักจะชอบการเคลื่อนไหวแบบสั้นๆ เป็นช่วง ๆ
เป้าหมาย คือ ให้น้องแมวมีกิจกรรมสั้นๆ โดยแบ่งเป็นสองถึงสามช่วง แต่ละช่วงใช้เวลาเพียง 5 ถึง 15 นาที โดยทั่วไป เมื่อน้องแมวรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว เค้ามักจะแสดงออกให้เจ้าของรู้ชัดเจนโดยการเดินหนีหรือนั่งลงและปฏิเสธที่จะร่วมกิจกรรมต่อ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตพฤติกรรมน้องแมวเพื่อความมั่นใจว่าน้องแมวไม่ได้หักโหมในการทำกิจกรรมเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน้องแมวที่มีอาการของโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) รุนแรงมากขึ้น
พยายามหลีกเลี่ยงการเลี้ยวหักมุมและการเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน
เมื่อกระตุ้นให้น้องแมวที่มีอาการข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ออกกำลังกาย อย่าพยายามให้น้องแมวกระโดดจากที่สูง เนื่องจากอาจทำให้เกิดแรงกดดันกะทันหันต่อข้อต่อที่เจ็บปวดได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากิจกรรมออกกำลังกายอยู่ในที่ที่มีพื้นนุ่มและไม่ลื่น หรืออาจช่วยโดยการเพิ่มขั้นบันไดหรือตั้งโต๊ะเพื่อช่วยให้น้องแมวสามารถปีนขึ้นที่สูงได้
ช่วงเวลาในการออกกำลังกายก็สำคัญ
แมวมักจะกระฉับกระเฉงที่สุดในช่วงเช้ามืด (หรือดวงอาทิตย์ขึ้น) และช่วงหัวค่ำ (หรือดวงอาทิตย์ตก) และก่อนมื้ออาหาร ซึ่งเป็นช่วงเวลาในการออกล่าเหยื่อตามธรรมชาติ การกระตุ้นให้น้องแมวออกกำลังกายในช่วงเวลาเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสที่น้องแมวจะให้ความร่วมมือ
ให้แมวในบ้านมีโอกาสออกไปข้างนอกแบบที่เราควบคุมได้
นี่อาจจะเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มระดับกิจกรรมของน้องแมว วิธีนี้อาจทำได้โดยการใช้พื้นที่กลางแจ้งที่มีการปิดล้อม หรือฝึกให้พวกเขาเดินด้วยสายจูง เมื่อออกนอกบ้านน้องแมวจะได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ และได้กลิ่นที่กระตุ้นให้น้องแมวเคลื่อนไหวและสำรวจสิ่งแวดล้อมต่างๆ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่สามารถใช้ได้กับสัตว์เลี้ยงบางตัวหรือเจ้าของบางคน...
โชคดีที่ยังมีกิจกรรม ของเล่น และเกมที่เล่นในบ้านอย่างมากมายที่จะช่วยให้น้องแมวของคุณเคลื่อนไหวได้มากขึ้น
แมวเป็นสัตว์ที่ชอบสิ่งใหม่ ๆ และหลากหลาย ดังนั้น ควรสลับเปลี่ยนของเล่นและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของน้องแมว ซึ่งแมวส่วนใหญ่จะสนุกกับเกมไล่ล่า - ใช้ของเล่นหรือลูกบอลที่น้องแมวสามารถไล่จับได้ หลีกเลี่ยงการใช้ปากกาเลเซอร์มากจนเกินไป เนื่องจากปากกาเลเซอร์สามารถกระตุ้นการไล่จับได้ แต่ไม่สามารถจับจริงๆ ได้ จึงอาจทำให้น้องแมวรู้สึกหงุดหงิด ดังนั้น ควรใช้ของที่น้องแมว “จับได้จริง” หรือแมวบางตัวอาจชอบตีหรือตะปบวัตถุต่างๆ เช่น ลูกบอล และมักจะสนุกกับการโยนของเล่นนุ่มๆ ขึ้นไปบนอากาศแล้วจับหรือกระโจนใส่ ดังนั้น เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของน้องแมว ลองปล่อยให้เค้าสำรวจพื้นที่ยกสูง ต้นไม้แมว หรือแม้แต่กล่องกระดาษเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหว
หากสัตว์เลี้ยงของคุณสนใจอาหารเป็นพิเศษ...
เกมปล่อยอาหาร (food puzzle) อาจช่วยให้น้องแมวเคลื่อนไหวได้มากขึ้น เกมเหล่านี้มักมีลักษณะเป็นลูกบอลหรือลูกกลิ้งที่ต้องผลักให้กลิ้งไปเพื่อปล่อยอาหารออกมาทีละน้อย หรือถาดที่มีลักษณะเป็นเขาวงกตและช่องต่าง ๆ ที่แมวต้องพยายามผ่านไปเพื่อเข้าถึงอาหาร สิ่งเหล่านี้ยังเหมาะสำหรับน้องแมวที่ต้องลดน้ำหนักอีกด้วย
การให้สัตว์เลี้ยงได้ยืดเส้นยืดสายและลับเล็บก็เป็นสิ่งสำคัญ
สิ่งนี้จะช่วยให้น้องแมวรักษาความยืดหยุ่น โดยเสาลับเล็บและต้นไม้แมวจะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมเหล่านี้ ซึ่งเสาลับเล็บควรตั้งให้สูงพอที่จะให้น้องแมวยืดตัวได้เต็มที่ แมวหลายตัวอาจชอบแผ่นลับเล็บแบบเรียบซึ่งอาจเหมาะสำหรับแมวที่มีการเคลื่อนไหวลำบาก
หากแมวของคุณมีอาการเคลื่อนไหวลำบาก
หากน้องแมวมีปัญหาในการเคลื่อนไหวและอาจกำลังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ ควรพาน้องแมวไปปรึกษาสัตวแพทย์ เพราะอาการเกร็ง อารมณ์หงุดหงิด และการเจ็บปวดเป็นสัญญาณของโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ในแมว มีวิธีมากมายในการรักษาความเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบ (ข้อเสื่อม) ในแมวตั้งแต่การใช้ยาลดปวด ไปจนถึงการทำกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นยากที่เราจะปล่อยให้สัตว์เลี้ยงที่เรารักแก่ตัวลงและเคลื่อนไหวได้น้อยลง แต่ข่าวดีก็คือ ปัจจุบันนี้มีตัวเลือกมากขึ้นในการบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยให้น้องแมวมีชีวิตที่กระฉับกระเฉงและปราศจากความเจ็บปวดเมื่อสู่วัยชรา